วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2556

รายงานวิชาเทคโนโลยีเว็บ 2 เรื่อง Product ของ Google Google News

Google News
ด้วยแรงกระตุ้น จากการสนใจข่าวสารบ้านเมืองในวงกว้างหลังเกิดเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 ที่มหานครนิวยอร์ก เราได้ลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหา และติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวรอบๆ ตัวพวกเขา Google News ถือเป็นแหล่งรวมข่าวสารแห่งใหม่ ที่รวบรวมลิงก์ข่าวในแบบเรียลไทม์ มีการจัดประเภทบทความ และจัดลำดับความนิยมจากความคิดเห็น ของบรรณาธิการสื่อสิ่งพิมพ์ทั่วโลก มีการเชื่อมโยงไปยังชุดของแหล่งข้อมูลที่หลากหลายสำหรับเรื่องใดก็ตาม เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าถึงมุมมองและประเภทเนื้อหาที่แตกต่างกัน รวมทั้งการนำเสนอและลงมุมมองหรือทัศนะที่ตรงข้ามกันไว้ในที่เดียวกัน ก็เป็นการส่งเสริมให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ข้อโต้แย้งของทั้งสองฝ่ายในเรื่องหนึ่งๆ และได้รับมุมมองที่สมดุลมากขึ้น
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา Google News มีการพัฒนาและปรับปรุงถึง 72 รุ่น ใน 30 ภาษา และขณะนี้เรามีแหล่งข่าวมากถึง 50,000 แห่ง เทคโนโลยีนี้จะทำงานโดยระบบค้นหาข่าวของ Google ซึ่งเชื่อมโยงผู้ใช้ที่มีลักษณะเฉพาะกว่า 1,000 ล้านรายต่อสัปดาห์ไปยังเนื้อหาของข่าว 
มามองย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาของ Google News ผ่านเรื่องราวที่เป็นสุดยอดของแต่ละปี รวมทั้งฟีเจอร์ที่โดดเด่นบางอย่างที่ได้เปิดตัวในระหว่างนั้น
ด้วยโอกาสมากมาย และเราก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะนำ Google News มาใช้ในทศวรรษถัดไป ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่เปลี่ยนไป คือภารกิจของเราในการนำเสนอข่าวสารเพื่อให้คุณได้รับข่าวสารที่ต้องการจากแหล่งข่าวที่มีความหลากหลาย

  • ติดตามความคืบหน้าของข่าวต่างๆ
  • จับตาความเคลื่อนไหวของคู่แข่งหรือธุรกิจ
  • รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับคนดังหรือกิจกรรมต่างๆ
  • ติดตามข่าวคราวทีมกีฬาที่คุณชื่นชอบ
  • สามารถนำข่าวสารที่ได้เป็นความรู้ในการใช้ชีวิตประจำวัน
  • รับทราบข่าวสารต่างๆ ได้รวดเร็วและแม่นยำ
คุณลักษณะ
Google News คือเว็บไซต์ข่าวที่จัดทำขึ้นด้วยคอมพิวเตอร์ โดยการรวบรวมหัวข้อข่าวจากแหล่งข่าวภาษาไทยหลายแห่งทั่วโลก นำข่าวที่มีเนื้อหาประเภทเดียวมาไว้ในหมวดเดียวกันและแสดงไว้ตามความสนใจใน แบบที่ผู้อ่านแต่ละคนกำหนด
ที่ผ่านมานั้น ผู้อ่านข่าวจะต้องเลือกสื่อสิ่งพิมพ์ก่อน จากนั้นจึงมองหาหัวข้อข่าวที่ตนสนใจ แต่เราทำสิ่งที่แตกต่าง โดยมีเป้าหมายคือการให้ผู้อ่านมีตัวเลือกได้ในแบบของคุณ และเพิ่มโอกาสให้คุณเลือกได้กว้างกว่า และหลากหลายกว่าเติม ใน Google News จะมีลิงก์ไปยังทุกบทความเกี่ยวกับทุกเรื่องราว คุณจึงสามารถตัดสินใจได้ก่อนว่า คุณสนใจหัวข้อใด แล้วจึงเลือกสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีหัวข้อที่ต้องการอ่าน คลิกข่าวพาดหัวที่คุณสนใจ คุณจะตรงไปที่เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวนั้นทันที
บทความของเราได้รับการคัดเลือกและจัดอันดับโดยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำหน้าที่ประเมินจากจำนวนครั้งและเว็บไซต์ที่ข่าวนั้นออนไลน์พร้อมทั้งพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ข่าวจะถูกจัดเรียงโดยไม่คำนึงถึงทัศนคติหรือแนวความคิดทางการเมือง คุณจึงสามารถเลือกอ่านข่าวได้กว้างและหลากหลายกว่า เรายังคงปรับปรุงและพัฒนา Google News โดยการเพิ่มแหล่งข่าว ปรับแต่งเทคโนโลยี และให้บริการ Google News แก่ผู้อ่านใน ภูมิภาคต่างๆมากยิ่งขึ้น



Google News เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 22 กันยายน ปี 2545 - หรือกว่าทศวรรษที่ผ่านมา 
ตามที่เราได้ปรับเปลี่ยนการบริการให้เป็นสากลมากขึ้น เราได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ (อาทิ ข่าวท้องถิ่น - (Local News) ข่าวจากการตั้งค่าส่วนตัวของคุณ (Personalization) ข่าวที่ได้รับการคัดเลือกจากบรรณาธิการ (Editors’ Picks) ข่าวเด่น (Sporlight) นักเขียน (Authorship) การแสดงความคิดเห็นทางสังคมออนไลน์ (Social Discussions) เราค่อยๆ พัฒนาการออกแบบ นำมาใช้บนโทรศัพท์มือถือ และใช้การทดสอบอุปกรณ์ (Fast Flip, Living Stories, Timeline) นอกจากนี้เรายังได้มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพ และท้าทายวิศวกรของเราให้ปรับเทคโนโลยี under the hood เพิ่มความสดใหม่ จัดกลุ่มข่าวให้ดีขึ้น จัดลำดับข่าวให้มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น ปรับแต่งด้วยข้อมูลเชิงลึกและเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานให้มากขึ้น
เราปฏิเสธไม่ได้ว่ารูปแบบข่าวออนไลน์เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล สมาร์ทโฟน และโซเชียล เน็ตเวิร์ก ได้เปลี่ยนวิธีการเข้าถึงแหล่งข้อมูลข่าวสาร และขยับความสัมพันธ์ระหว่างผู้อ่านและผู้เขียนให้เข้าใกล้กันมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังถูกรวมเข้ามาเป็นมาตรฐานในการนำเสนอข่าว และเป็นการรวมมนุษย์กับเครื่องจักรให้เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศน์ด้วยกัน เทคโนโลยีใหม่ อาทิเช่น การใช้งาน Google Hangouts ที่ช่วยเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ นักข่าว ผู้ริเริ่มความคิด และเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสื่อสารระหว่างกัน

ข่าวที่กำหนดเอง: ไม่มีใครสามารถอ่านข่าวที่เผยแพร่ทั้งหมดของทุกๆ วันได้ แล้วทำไมเราไม่ตั้งค่าให้เว็บเพจแสดงเฉพาะข่าวที่เราสนใจมากที่สุด? 
ข่าวในมือถือของคุณ: ถ้าโทรศัพท์มือถือของคุณสามารถใช้บริการรับข้อมูลข่าวสารได้ คุณจะสามารถเข้าถึง Google News เวอร์ชันพิเศษจากโทรศัพท์มือถือ 
Feeds: คุณสามารถรับข่าวอัพเดตในหัวข้อต่างๆ จาก Google News หรือจากผลการค้นหาของ Google News ได้ โดยการสมัครใช้งาน RSS หรือ Atom Feed ไว้เป็น Feed Reader ที่คุณชื่นชอบ
การค้นหาข่าวที่เก็บไว้: ค้นหาและสำรวจข้อมูลจากข่าวที่เก็บไว้ย้อนหลังกว่า 200 ปี 

วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

6-social-media

งานที่ 6 เรื่อง Social Media
ความหมายของ Social Media


         สำหรับในยุคนี้ เราคงจะหลีกเลี่ยงหรือหนีคำว่า Social Media ไปไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็จะพบเห็นมันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหลายๆ คนก็อาจจะยังสงสัยว่า “Social Media” มันคืออะไรกันแน่ วันนี้เราจะมารู้จักความหมายของมันกันครับ
คำว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน
คำว่า “Media” หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น
ดังนั้นคำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง
พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้ แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ
         Social Media คือสื่อยุคใหม่ที่กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกวงการทั้งชีวิตประจำวัน และการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นสื่อที่นิยมใช้สื่อสารการตลาดเพื่อการโปรโมท และทำกิจกรรมการตลาดออนไลน์ในหลาย ๆ รูปแบบ แต่สำหรับการนำ social media มาใช้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการภายในธุรกิจยังเป็นสิ่งมีข้ัอจำกัดและอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องห้ามอยู่ หลายองค์กรในภาครัฐและเอกชนก็ไม่อนุญาตให้พนักงานใช้ social media ในการทำงาน บางหน่วยงานก็บล็อกเว็บไซต์ประเภท social network ต่าง ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้พนักงานเล่นในเวลาทำงาน เช่น facebook, youtube,bit torrent ฯลฯ ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ทางด้าน productivity ในการทำงาน , ความปลอดภัย , การแย่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ฯลฯ บางทีมีการแซวกันขำๆ ว่าหน้าที่ของหัวหน้าที่เพิ่มขึ้นมาอย่างหนึ่งก็คือ เข้าไปตรวจดูในเฟซบุคเพื่อที่จะจับผิดลูกน้องว่ามีใครออนไลน์อยู่บ้างในเวลาทำงาน
แต่บางองค์กรก็ให้ความสำคัญกับการใช้ social media เป็นอย่างมาก มีการสนับสนุนให้จัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเรื่อง social media ขององค์กรเลยทีเดียว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า และการบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า ส่วนการนำ social media มาประยุกต์ใช้ในการทำงานภายในอย่างเป็นกิจลักษณะนั้น ก็เห็นจะมีแต่องค์กรชั้นนำเท่านั้นที่มีการออกนโยบายที่เกี่ยวข้องและมีระบบการควบคุมดูแลเป็นอย่างดี เพื่อให้พนักงานสามารถใช้ social network ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่บางองค์กรก็พยายามจะหาวิธีการนำ social media มาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ก็ยังไม่มีไอเดียว่าจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงานอย่างเป็นรูปธรรมได้

o แบ่งได้เป็นกี่ประเภท
มี 6 ประเภทครับ
(1) Blog
(2) Twitter
และ Microblog อื่นๆ 
(3) Social Networking 
(4) Media Sharing 
(5) Social News and Bookmarking 
(6) Online Forums

o ยกตัวอย่างมา 1 เว็บที่น่าสนใจ อธิบายถึงข้อดีข้อเสีย (รูปภาพประกอบ)

Hi5.com เป็นเวบไซต์ที่ให้ผู้ใช้บริการมาฝาก profile ของตัวเอง คล้ายๆกับ blog เนี่ยแหละ แต่ว่าคนไม่ค่อยไปเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวในนั้นซะเท่าไหร่ จะเน้นที่ตกแต่งหน้าตา profile เราให้สวยงาม ดึงดูดคนมาเข้า แต่จุดเด่นของมันอยู่ที่ ระบบ network ที่เรามีโอกาสได้ทำความรู้จักกับคนใหม่ๆ หรือบังเอิญเจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมเมื่อหลายสิบปีก่อน หรือเพื่อนของเพื่อน กิ้กเก่า แฟนเก่า .. แต่อีกหลายคนก็สมัครไปงั้นๆไม่ได้อะไรมากเพราะได้รับอีเมลชวนมาเล่น hi5 จากเพื่อน 


สำหรับหลายคนที่รู้จักและใช้บริการอยู่คงจะไม่ต้องอธิบายกันมาก เพราะคงรู้จุดประสงค์และการใช้งานดีอยู่แล้ว แต่หลายๆคนยังไม่ทราบว่าเจ้า hi5 นี่ใช้งานยังไง มีทำไม และเพื่อประโยชน์อะไร
ข้อดี
1. มีโอกาสได้เพื่อนใหม่ๆและ keep connect กับเพื่อนเก่าๆ ที่บางคนอาจจะเลือนหายไปกับความทรงจำ (แต่พอส่ง msg คุยกันก็ไม่รู้จะคุยไร เพราะมันห่างกันมานาน เฮ้อ)
2. การเก็บรักษาความส่วนตัว ก็ใช้ได้ระดับหนึ่ง คือ ยังไงๆถ้าเราไม่บอก ไม่ว่าใครก็ไม่รู้อีเมลเรา แต่ถ้าอยากให้รู้ก็เขียนบอกไปเลยก็ได้ หรืออยากรู้ msn ใครก็แมสเสจไปหาเขาตรงๆ
3. วิธีการสมัครง่าย และวิธีการทำ hi5 ให้สวยงามก็ง่าย
4. ข้อดีก็เหมือน blog ทั่วไปๆแหละเพียงแต่คนเล่นนิยม เพราะมันดูทันสมัยและใช้งานง่าย
ข้อเสีย
1. ช่วงนี้มีการพัฒนาเวบ อาจจะล่มบางครั้ง
2. ใส่ลูกเล่นหรือปรับแต่งอะไรได้ไม่ค่อยเยอะ มันจะมี pattern อยู่แล้ว ก็จะปรับได้ส่วนของแบคกราวน์ สี font ตัวอักษร ใส่เพลง vdoclip ….
3. ไม่มีประโยชน์เท่าบล้อก เพราะคนเข้ามาดูรูปส่วนใหญ่
o การประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนระดับอุดมศึกษา
ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ประกอบกับจำนวนผู้ใช้งานที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ทุกคนมีอิสระที่จะเข้าไปแบ่งปันความรู้ และเลือกเครื่องมือที่ดีที่สุด เพื่อนำไปเผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองต้องการสื่อสาร และเสนอความคิดใหม่ๆ ได้โดยไม่ถูกปิดกั้น นับเป็น ยุค 2.0 ที่ครูต้องตระหนักกับการเปลี่ยนถ่ายของข้อมูล(Content) จากข้อมูลที่คงที่ (Static Content) เข้าสู่ยุคของข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (Dynamic Content) แนวคิดการนำ Social Media มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนนับเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำลังให้การส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน เพราะปัจจุบัน Social Media ได้ กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างสื่อให้เกิดเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันในโลกออนไลน์ ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างง่ายและสะดวกรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
ดังนั้นการนำเทคโนโลยี Social Media มาใช้เป็นเครื่องมือสื่อและแหล่งเรียนรู้เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน เป็นการผลักดันให้ครูก้าวทันโลกยุคปัจจุบัน และสามารถเข้าถึงเยาวชนยุคใหม่ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะทำให้เกิดระบบ “ชุมชนแห่งการเรียนรู้” บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
อะไรคือ Social Media
คุณครูรู้จัก Social Media หรือไม่??? จริงๆ แล้วทุกคนน่าจะรู้จัก และใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่เคยรู้ว่ามันเรียกว่า Social Media หรือแม้ลองถามนักเรียนว่ารู้จักหรือเปล่า นักเรียนก็คงบอกว่าไม่รู้จัก แต่ถ้าถามว่ารู้จักเว็บไซต์เหล่านี้หรือไม่ เช่น Hi5, Facebook, Twitter, YouTube ร้อยทั้งร้อยคงบอกว่ารู้จัก แถมบางคนอาจจะบอกว่ามี และเล่นแทบทุกวัน สิ่งเหล่านี้แหละครับคือ Social Media ซึ่งบางครั้งเรามองว่า มันเหมือนไม่มีประโยชน์ นักเรียนหรือครูเล่นก็เหมือนเสพติด เสียเวลาเรียน เวลาทำงาน แต่ของทุกอย่างมีทั้งด้านดี และไม่ดี ถ้าเรามองเห็น และนำด้านดีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็น่าจะเป็นเรืองดีที่ของที่เหมือนเล่นๆ ไม่เป็นประโยชน์จะช่วยให้นักเรียนของเราเกิดการเรียนรู้ได้ แม้ไม่ได้อยู่ในห้องเรียน ยังไม่มีศัพท์บัญญัติทีใช้ แทนคำว่า Social Media ในภาษา ไทย แต่มีการแปลอย่างตรงไปตรงมาว่า “สื่อสังคม” เป็นคำที่ใช้ในปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่ยังคงใช้ทับศัพท์ Social Media เป็นส่วนใหญ่
สื่อสังคม หรือ Social Media
เป็นสื่อที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการทางสังคม เน้นการโต้ตอบและมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างกันและกัน โดยอาศัยระบบอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึง ซึ่งปัจจุบันมีใช้มากขึ้น คือเด็กๆ ของพวกเรา เอง ดังนั้นเราน่าจะให้เด็กของเราเข้าใช้ให้เกิดประโยชน์ หาหนทางทำให้สื่อสังคมนี้เกิดประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ของนักเรียน ซึ่งครูผู้สอนอย่างเราๆ ต้องเป็นตัวแปรสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการใช้ประโยชน์จากสื่อสังคม นอกจากนี้สื่อสังคมยังเป็นเครื่องมือที่ทำให้บุคคลทุกคนสามารถมีปากเสียงได้บนโลกออนไลน์
Social Media มีเครื่องมืออะไรบ้าง
ดังที่ได้กล่าวแล้วข้างต้น เครื่องมือของสื่อสังคม (Social Media Tools) มีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ ซึ่งเครื่องมือส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องมือที่ใช้แบ่งปัน (Share) องค์ความรู้ ความคิดเห็น โดยที่เราไม่จำเป็นต้องสร้างสื่อขึ้นมาใหม่ เพราะมันมีอยู่ในบนโลกออนไลน์ เพียงแค่เรานำสิ่งที่มีอยู่แล้วนี้มาใช้ เมื่อเราค้นข้อมูลไปเรื่อยๆ ณ จุดหนึ่งจะพบว่า เรื่องบางเรืองไม่มีใครรู้ดีกว่าเราอีกแล้ว นั่นแหละถึงเวลาที่ต้อง Share ข้อมูลนั่นเสีย
มีเครื่องมืออะไรบ้างที่ ใช้ Share ข้อมูลได้…
สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน (สทร.) เป็นหน่วยงานสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดการอบรมครูเพื่อเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนการนำ Social Media มาใช้ในการจัดการเรียนรู้ตามโครงการนำร่องการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และส่งเสริมการใช้ Social Media ในการจัดการ เรียนรู้ เมื่อวันที่ 28 มีนาคม – 2 เมษายน 2553 โดยมีครูเข้าร่วมอบรมจำนวน 200 คน จากทั่วประเทศ ซึ่ง สทร. ได้เสนอเครื่องมือของสื่อสังคมเพื่อนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ ดังนี้
- WordPress.com เป็นเว็บล็อก หรือบล็อก สร้างเป็นบล็อกกลางสำหรับแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเป็นสื่อกลางในการแจ้งข่าวสาร
- Facebook.com ทำหน้าที่เป็นกระดานข่าว คล้ายๆ กับ hi5 ครูและนักเรียนสามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ที่นี่เช่นกัน
- Twitter.com ใช้ในการสื่อสารข้อความสันๆ ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ทำหน้าที่คล้าย SMS สามารถ โต้ตอบกันได้อย่างรวดเร็ว
- Slideshare.net ใช้ในการแบ่งบันสไลด์ ในกรณีทีคุณครูสร้างสไลด์เป็นสื่อในการจัดการเรียนการสอนสามารถนำไปฝากไว้ แล้วให้นักเรียนไปดาวน์โหลดมาชมหลังจากเรียนเสร็จแล้วก็ได้
- Flickr.com ใช้ ในการแบ่งปันไฟล์ภาพ
- Scribd.com ใช้ในการแบ่งปันไฟล์เอกสาร เช่น ใบความรู้ ใบงาน แบบฝึก
- youtube.com ใช้ ในการแบ่งปันไฟล์วีดีทัศน์ คุณครูสามารถเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้ตามความเหมาะสม
จะนำ Social Media ไปใช้อย่างไร
ด้วยเครื่องมือที่หลากหลายในการใช้งาน คุณครูสามารถนำเครื่องมือเหล่านี้ไปใช้ได้ตามความเหมาะสม โดยไม่มีรูปแบบในการจัดกิจกรรมที่ตายตัว เลือกใช้ทุกเครื่องมือ หรือบางเครื่องมือก็ได้ในการจัดการเรียนรู้ อาจเข้าไปดูในเว็บไซต์กลางของ Social Media
ที่ สทร. สร้างไว้ที่ http://smeducation.wordpress.com/
ที่นี่จะเป็นที่รวบผลงานของครูแกนนำที่สร้างไว้ นอกจากนี้อาจจะเข้าไปชมผลงานของโรงเรียนดรุณสิกขาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการใช้ Social Media ในการยกระดับการเรียน สทร. ไม่ได้กำหนดรูปแบบในการนำ Social Media ไปใช้ ให้ครูเป็นผู้ลองด้วยตนเอง ดังนั้นผู้เขียนเสนอแนวคิดในการนำ Social Media ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
1. ใช้ในฐานะแหล่งเรียนรู้ โดยครูอาจจะต้องเป็นนักสำรวจเลือกสื่อที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับการเรียนรู้ของนักเรียน แล้วนำไปรวบรวมไว้ที่บล็อกกลางของครู และประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนทราบที่ FaceBook ก็ได้ จากนั้นให้นักเรียนเข้าศึกษาด้วยตนเอง
2. ใช้ในฐานะสื่อการสอน โดยครูเลือกสื่อที่สามารถนำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ และออกแบบการสอนโดยอาศัยสื่อเหล่านั้นประกอบ ตามความเหมาะสมของธรรมชาติวิชา
3. ใช้ในการสื่อสารกับนักเรียน อาจใช้เป็นช่องทางในการรับทราบปัญหาของนักเรียน เมื่อนักเรียนมีปัญหาอาจจะมาทิ้งข้อความไว้ ครูก็เข้าไปตอบปัญหาเหล่านั้นได้
4. ใช้เป็นช่องทางในการมอบหมายงานและส่งงาน
5. ใช้เป็นแหล่งพักสมองโดยได้ความรู้ เกมบางชนิดสร้างปัญญา แต่ต้องเลือกให้ดี
ในอดีตการเรียนการสอนจะยึดผู้สอนเป็นศูนย์กลาง โดยมีครูเป็นผู้บรรยายเนื้อหาบทเรียน และผู้เรียนมีหน้าที่เรียนรู้ตามที่ครูบอก จะไม่เน้นที่กระบวนการคิดให้เกิดกับผู้เรียน จึงทำให้ผู้เรียนคิดวิเคราะห์ไม่เป็น ยุคต่อมาระบบการศึกษาเปลี่ยนไปเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ(Child center) โดยที่ครูมีบทบาทและนำแนวทางการเรียนในบทเรียน แต่วิธีนี้ก็ยังมีข้อบกพร่องที่ครูผู้สอน มักจะตีความหมายของการเรียนโดยยึดผู้เรียนเป็นสำคัญผิดๆ โดยให้ผู้เรียนหาวิธีการเรียนเอง ซึ่งผู้เรียนไม่ได้ถูกฝึกมาให้เกิดกระบวนการคิดตั้งแต่แรก ไม่สามารถเรียนรู้โดยวิธีนี้ได้ ดังนั้นถ้าครูไม่เป็นผู้แนะนำให้คำปรึกษาแก่ผู้เรียน หรือชี้แนะแนวทางเลย ผู้เรียนก็จะไม่เกิดกระบวนการเรียนรู้ใดๆ ทั้งสิ้น
ปัจจุบันนี้วงการการศึกษามีจุดมุ่งหมายเน้นให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่มี และมีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน เทคโนโลยีจึงมีบทบาทที่สำคัญในการตอบสนองการเรียนรู้ของผู้เรียน หรืออีกนัยหนึ่งคือต้องการให้โรงเรียนทุกโรงจัดการศึกษาโดยนำเทคโนโลยีมาใช้กับการเรียนการสอนในทุกกลุ่มสาระ เรียกได้ว่าเป็นการบูรณาการวิชากับสื่อเลยก็ว่าได้ การศึกษาในยุคนี้จึงหนีไม่พ้นกับคำเปรียบที่ว่า “การศึกษายุคดิจิตอล”
นับตั้งแต่มีเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเข้ามา ดูเหมือนว่าวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกจะถูกโยงให้ข้องเกี่ยวกับมันอย่าง เลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากมันจะเป็นศูนย์รวมของข้อมูลข่าวสารที่ไม่มีขอบเขตจำกัดแล้ว อินเทอร์เน็ตยังเป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้คนที่มี ประสิทธิภาพไม่น้อย จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว
จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนี้ Social Network หรือสังคมเครือข่ายออนไลน์ มีผู้นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ไม่เฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น แต่ยังแพร่กระจายไปยังกลุ่มธุรกิจ กลุ่มนักเรียนนักศึกษา โดยในส่วนธุรกิจจะใช้ Social Network ในการประชาสัมพันธ์โฆษณาสินค้า ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง เพราะลูกค้าก็คือผู้ใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตนั่นเอง
ส่วนกลุ่มวัยรุ่น กลุ่มนักเรียนนักศึกษา จะใช้ Social Network ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน โดยความต้องการแล้ว คนกลุ่มนี้ต้องการความเป็นอิสระและความเป็นส่วนตัว นอกจากจะเป็นผู้ใช้แล้ว ยังสามารถเป็นผู้สร้างหรือดัดแปลงเทคโนโลยีได้ และเป็นการเปิดโอกาสทางความคิดของตนเอง และเผยแพร่ไปยังบุคคลอื่นได้ ซึ่ง Social Network สามารถตอบสนองความต้องการตรงนี้ได้ จึงมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความรู้ หรือเรื่องที่สนใจผ่านทาง Facebook, Skype หรือเกมส์ออนไลน์ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการได้เช่นกัน
ส่วนกลุ่มคนวัยทำงาน นักวิชาการ หรือองค์กรภาครัฐและเอกชน หรือแม้แต่ระบบราชการ เป็นกลุ่มที่นิยมใช้ Social Network ในการสืบค้นข้อมูลข่าวสาร และติดต่อสื่อสารมากกว่าการเข้าไปในรูปแบบอื่นๆ
 การประยุกต์ใช้ Social Network กับการจัดการเรียนการสอน
การตอบโจทย์การศึกษาในยุคดิจิตอล จึงต้องตอบสนองที่ความต้องการของผู้เรียน ต้องสร้างแหล่งเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต แต่การจัดตั้งแหล่งเรียนรู้จำเป็นต้องใช้งบประมาณมาก แต่ถ้าครูสามารถสร้างแหล่งเรียนรู้สำหรับให้ผู้เรียนศึกษาได้เองตลอดเวลาและประหยัดเงิน โดยการสร้างแหล่งเรียนรู้หรือบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้ผู้เรียนสามารถเข้ามาสืบค้น เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับการจัดการเรียนการสอน การสร้างบทเรียนหรือเนื้อหาวิชาเรียน เป็นวิธีที่ทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ครูผู้สอนและนักเรียนมีการใช้อินเทอร์เน็ตเท่านั้น โดยครูจะเป็นผู้ควบคุมดูแลระบบ สร้างบทเรียนเนื้อหาลงไปในเครือข่าย เช่น Facebook, Youtube แล้วให้ผู้เรียนเข้าไปเรียนตามเนื้อหาที่ครูเป็นผู้กำหนดไว้ นอกจากนี้ครูยังสามารถเช็คเวลาเรียนจากการเข้าใช้ระบบของนักเรียนได้ นอกจากผู้เรียนจะเข้ามาเรียนอย่างเดียวแล้ว เมื่อเกิดคำถามก็สามารถแสดงความคิดเห็นหรือตั้งคำถามไว้ให้ครูมาตอบได้ทันที ทำให้การเรียนการสอนมีความน่าสนใจและเรียนรู้ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม




วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ใบงานที่ 4

เทคโนโลยีเว็บที่น่าสนใจ
Windows Phone 8
สำหรับ Windows Phone 8 นั้นเรียกว่าไม่พูดไม่ได้เลย กับระบบปฏิบัติการที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในขณะนี้ (ก็มันเกิดใหม่) และเป็นระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่กู้ชีพให้ Nokia พ้นจากความฐานะ ใกล้เจ๊งซึ่งพี่แกเคยเดิมพันไว้ถึงขนาดถ้า Windows Phone 8 ไปไม่รอด ก็ขอขายบริษัททิ้งแล้ว แต่ Nokia ก็ไม่ต้องขายบริษัทจริงๆ เพราะล่าสุด Lumia ของเขาทำยอดขายได้ถึง 4.4 ล้านเครื่อง แถม Lumia 920 ยังแย่งกันซื้อแบบถล่มทลายโดยเฉพาะในประเทศจีน
โดยผู้ผลิต Windows Phone 8 ในขณะนี้มีด้วยกัน 4 ค่ายคือ Nokia ที่เป็นหัวหอกหลัก ภายในเวลาเพียง 2 เดือนกว่าๆ ก็เข็น Lumia Windows Phone 8 ออกมาแล้ว 6รุ่น! ได้แก่ Lumia 920, Lumia 920s (ขายในจีน), Lumia 820, Lumia 822 (ขายในอเมริกา), Lumia 810 (ขายในอเมริกา) และ Lumia 620 ส่วนค่ายต่อมาก็เป็นค่ายสมาร์ทโฟนอาการร่อแร่อีกค่าย HTC ที่เข็นออกมา 2 รุ่นคือ Windows Phone 8X กับ 8S ส่วนอีกค่ายคือค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่รุ่งเรื่องที่สุดแห่งยุค Samsungโดยฉายเดียวรุ่นเดียวคือ ATIV Sและค่าสุดท้ายคือ Huawei มาพร้อมกับ Ascend W1
ความน่าสนใจของ Windows Phone 8 นั้นอยู่ที่มันคือระบบปฏิบัติการเก่าที่ยกเครื่องใหม่หมดจาก Windows Phone 7 รองรับความเข้ากันกับโค้ตของ Windows 8 ทำให้ทั้ง 2 ระบบสื่อสารกันรู้เรื่องมากขึ้น มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่ไม่เหมือนใคร (และไม่มีใครเหมือน ขนาด iPhone กับ Android ยังมีหลายจุดที่คล้ายกัน) แถมพกความลื่นไหลรวดเร็วแบบที่ iPhone ยังแอบแพ้อยู่ด้วยบางจุด และแน่นอนครับ ใช้ง่าย ใส่เพลงง่าย ใส่ริงค์โทนง่าย ใส่รูปง่าย หยั่งกะใช้คอมพิวเตอร์ที่คุ้นเคย ไฟล์ไหนมันอ่านไม่ออกมันจับแปลงให้ด้วย! (สกุลเพลงแปลกๆ มันจับแปลเป็น WMA หมด) ใครว่า Android ง่ายแล้วมาเจอ Windows Phone 8 นั้นง่ายกว่าอีก


Windows Phone 8 จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2013 ว่ามันจะสามารถสู้กับพลังของ Android กับ iPhone และเหล่าสาวกที่ออกแนวต่อต้านนิดๆ ได้หรือไม่ แต่สำหรับคนที่เบื่อสมาร์ทโฟนแบบเก่าๆ แล้ว นี่คือคำตอบของคุณ

การเริ่มต้นใช้งาน Windows Phone 8 


มีสิ่งที่น่าสำรวจมากมายเมื่อคุณได้รับโทรศัพท์เครื่องใหม่ คุณสามารถปักหมุดอะไรได้บ้าง คุณจะเปลี่ยนสีและเสียงเรียกเข้าได้อย่างไร อะไรเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการโหลดรายชื่อของคุณ และคุณจะสามารถโหลดแอพทั้งหมดได้จากที่ไหน แนวคิดต่อไปนี้ช่วยให้คุณเลือกว่าจะเริ่มต้นใช้งาน Windows Phone 8 ของคุณอย่างไรสิ่งแรกที่ต้องทำ...


ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoftบัญชี Microsoft คืออีเมลแอดเดรสและรหัสผ่านที่คุณใช้ในการลงชื่อเข้าใช้ Hotmail, Xbox, Windows, Messenger, SkyDrive และอื่นๆ คุณไม่จำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft ของคุณก่อน แต่เมื่อคุณดำเนินการ โทรศัพท์ของคุณจะมีความสามารถอย่างมากมาย เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ คุณจะสามารถทำสิ่งต่อไปนี้ได้
ดาวน์โหลดแอพ เพลง และเกมจาก Windows Phone Store
สร้างสำรองข้อมูลการตั้งค่าโทรศัพท์ของคุณเพื่อป้องกันเหตุร้าย
เล่นเกม Xbox กับเพื่อน และรับ Gamerscore และ Avatar ในโทรศัพท์ของคุณ
รับฟีด Facebook, Twitter และ LinkedIn ใน Hub ผู้คนของคุณ
อัปโหลดภาพถ่ายและวิดีโอไปยัง SkyDrive โดยอัตโนมัติ
ฟังเพลงด้วย Xbox Music
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชี Microsoft หรือค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณในการใช้งาน ดู บัญชี Microsoft เรียนรู้วิธีการใช้งาน

หากคุณเพิ่งเริ่มใช้ Windows Phone หรือต้องการฟื้นความจำ เริ่มต้นจากพื้นฐาน
ปุ่มต่างๆ คุณสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมายด้วยปุ่มเพียงสองสามปุ่ม ปุ่ม เริ่มต้น  เป็นเสมือนจุดศูนย์กลางแรงโน้มถ่วงในโทรศัพท์ของคุณ กดปุ่มนี้เพื่อกลับไปที่หน้าจอเริ่มต้นไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรือกดปุ่มนี้ค้างไว้เพื่อใช้การสั่งงานด้วยเสียง กด ค้นหา   เพื่อไปที่ Bing เพื่อค้นหาสิ่งใดก็ตามที่คุณกำลังมองหา (หรือเพียงเรียกดูข่าวล่าสุด วิดีโอ ข้อเสนอ ภาพยนตร์ และอื่นๆ) กด ย้อนกลับ  เพื่อกลับไปหน้าจอก่อนหน้า หรือกดปุ่มนี้ค้างไว้เพื่อข้ามไปยังห้าสิ่งสุดท้ายที่คุณกำลังทำอยู่ได้อย่างรวดเร็ว หากต้องการอ่านรายละเอียดทั้งหมด ดู ปุ่มสามปุ่ม: ย้อนกลับ เริ่มต้น และค้นหา
เริ่มต้น นี่คือศูนย์คำสั่งของคุณ หน้าแรกของคุณ ที่ที่ทุกสิ่งเป็นแบบที่คุณชอบ คุณสามารถปักหมุดสิ่งต่างๆ ที่หน้าจอเริ่ม ไม่ว่าจะเป็นแอพ รายชื่อ กลุ่ม ห้อง ตำแหน่งในแผนที่ เพลง อัลบั้มเพลง อัลบั้มภาพถ่าย บันทึกย่อ OneNote และอื่นๆ อีกมากมาย
ไทล์หลายไทล์เสนอข้อมูลอย่างคร่าวๆ คุณจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปในแอพเพื่อดูว่าอุณหภูมิเป็นเท่าใด คุณมีอีเมลจำนวนเท่าใด หรือเพื่อนโพสต์รูปภาพบน Facebook เมื่อเร็วๆ นี้หรือไม่ เมื่อคุณปักหมุดรายชื่อที่หน้าจอเริ่ม คุณจะได้รับการอัพเดต Facebook, Twitter และ LinkedIn ของพวกเขาจากไทล์นั้นได้โดยตรง อีกทั้งคุณจะเห็นด้วยว่าพวกเขาโทรหรือส่งข้อความใดๆ ถึงคุณเมื่อใด และเช่นเดียวกับเบอร์โทรด่วน คุณสามารถโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรืออีเมลถึงพวกเขาได้ด้วยการแตะเพียงสองครั้ง 

เมื่อต้องการปักหมุดสิ่งต่างๆ ส่วนใหญ่ไว้ที่หน้าจอเริ่มต้น ให้แตะรายการนั้นค้างไว้จนกว่าเมนูจะปรากฏขึ้น หรือแตะ เพิ่มเติม  แล้วแตะ ปักหมุดที่หน้าจอเริ่ม สำหรับรายการอื่นๆ เพียงแตะ ปักหมุด  ในแถบเมนู จากนั้นเมื่อคุณเพิ่มไทล์ที่คุณชอบแล้ว ให้ย้ายไทล์เหล่านั้นไปไว้ในที่ใดก็ตามที่คุณต้องการ
คุณสามารถเลือกขนาดของไทล์ได้เช่นกัน แตะไทล์ค้างไว้ แล้วแตะลูกศร ปรับขนาด เพื่อเลือกขนาด ใช้ตัวเลือกเล็กสุดเพื่อให้พอดีมากขึ้น หรือทำให้เป็นขนาดกลางเพื่อสัมผัส "ความสมจริง" ของ Live Tile สำหรับบางไทล์ คุณยังสามารถปรับให้กว้างเป็นสองเท่าสำหรับรายละเอียดแบบพาโนรามา
รายการแอพ จากหน้าจอเริ่มต้น คุณสามารถเข้าถึงแอพทั้งหมดในโทรศัพท์ของคุณได้เพียงตวัดนิ้วครั้งเดียว ตวัดนิ้วไปทางซ้ายเพื่อดูทุกสิ่งที่คุณมี รวมถึงการไปยังการตั้งค่า ตั้งนาฬิกาปลุก และค้นหาสิ่งใหม่ๆ ที่จะปักหมุด
Windows Phone 8 มีอะไร เป็นยังไงบ้าง
1. รองรับ hardware มากขึ้น
 ข้อนี้หลักๆ แล้วก็จะเป็นเรื่องของสเปกเครื่องครับ โดยตัวของ Windows Phone 8 จะเริ่มรองรับสเปกที่ใกล้เคียงกับแพลตฟอร์มอื่นแล้ว นั่นคือ
รองรับ CPU แบบ multi-core เรื่อยไปตั้งแต่ 2 คอร์ และสูงสุดตามทฤษฎีคือ 64 คอร์
รองรับจอ 3 ขนาดใหม่ คือ 800×480, 1280×768 และ 1280×720
สามารถใช้งาน microSD ได้แล้ว โดยผู้ใช้สามารถเก็บ content ต่างๆ หรือจะลงแอพไว้ใน microSD โดยตรงเลยก็ได้
2. Internet Explorer 10 จะลงมาอยู่ใน Windows Phone 8 ด้วย 

เนื่องด้วยคอร์ของ Windows Phone 8 นั้นเป็นการยกบางส่วนมาจาก Windows 8 สำหรับคอมพิวเตอร์ (Microsoft ใช้คำว่า shared core) ทำให้เอนจิ้นหลายๆ ตัวถูกนำมาใส่ใน Windows Phone 8 ด้วย รวมไปถึง Internet Explorer 10
โดยในงานเปิดตัว Microsoft ได้นำกราฟแสดงระยะเวลาที่ใช้ในการทดสอบ SunSpider (ทดสอบความเร็วในการรัน Javascript บนเบราเซอร์) พบว่า Internet Explorer 10 สามารถทำงานได้เร็วที่สุด เหนือคู่แข่งตัวท็อปของแต่ละค่ายอย่าง Samsung Galaxy S III ของ Android และ iPhone 4S ของ iOS อยู่พอสมควร
3. เปิดให้ใช้งาน Native Code ใน Windows Phone 8 แล้ว 

ข้อนี้ ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เต็มๆ ก็คือนักพัฒนาแอพครับ เพราะทำให้สามารถพอร์ตแอพจากใน Windows 8 ของคอมพิวเตอร์มาลงได้ง่ายขึ้น ด้วยการปรับเปลี่ยนโค้ดเพียงเล็กน้อย ซึ่งจะเห็นผลอย่างมากสำหรับพวกเกมในแพลตฟอร์ม Metro UI คราวนี้เกมของสมาร์ทโฟน Windows Phone ก็น่าจะเหมือนกับในคอมพิวเตอร์เสียที
นอกจากนี้ยังรองรับการทำงานของ DirectX และเอนจิ้น Havok ด้วย ทำให้ตัว Windows Phone 8 น่าสนใจมากในมุมมองของนักพัฒนา
แต่ทั้งนี้ ก็แน่นอนว่าแอพที่พัฒนามาสำหรับ Windows Phone 8 โดยตรงนั้น คงจะนำไปใช้ร่วมกับ Windows Phone เวอร์ชันต่ำกว่าคงไม่ได้อีกต่อไป เนื่องด้วยเพราะการเปลี่ยนแปลงคอร์หลักของระบบนั่นเอง

และที่สำคัญ เกมใหญ่ๆ อย่าง Halo, Assassins Creed และ Elder Scroll V : Skyrim จะมาลงใน Windows Phone 8 ด้วย
4. และ 5. รองรับระบบของ NFC และระบบจ่ายเงินด้วยมือถือ (Wallet) อย่างเต็มตัว



ฟีเจอร์นี้เป็นข้อที่ Microsoft ตั้งใจนำเสนอมากที่สุด โดยถ้านับเป็นเวลา ก็แทบจะกินเวลาไปกว่า 1 ใน 3 เลยก็ว่าได้ โดยใน Windows Phone 8 นี้ ผู้ใช้ที่ทำการแอะระบบจ่ายเงินผ่าน Wallet ไว้จะได้รับความสะดวกในการใช้งานค่อนข้างมาก ซึ่งสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 ทุกรุ่นจะรองรับฟีเจอร์นี้ และเริ่มใช้ในฝรั่งเศสบนเครือข่าย Orange ก่อนเป็นที่แรก และจะค่อยๆ กระจายไปที่อื่นๆ ในภายหลัง
นอกจากจะใช้ NFC ในการจ่ายเงินแล้ว ยังใช้เป็นตัวกลางสำหรับการรับส่งข้อมูลกันระหว่างมือถือกับคอมพิวเตอร์ที่มี NFC หรือจะใช้ในการรับข้อมูล contact มาจากนามบัตรที่มี NFC ในตัวก็ยังได้
6. Windows Phone 8 จะเปลี่ยนมาใช้ระบบแผนที่ Nokia Map และมี Offline Map

น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้ใช้หรือผู้ที่กำลังจะหันมาใช้ Windows Phone ให้ความสนใจมาก เพราะระบบแผนที่ของ Nokia นั้นได้รับความเชื่อถือในคุณภาพค่อนข้างมาก (ยังไงๆ ก็ดีกว่า Bing Map ตอนนี้เยอะ) ทำให้ระบบแผนที่บนแพลตฟอร์ม Windows Phone 8 เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้แล้วล่ะ เมื่อเปลี่ยนมาใช้ Nokia Map เช่นนี้

แต่ทั้งนี้ตัว Nokia เองก็ยังเหลือไม้เด็ดไว้เป็นจุดเด่นของตัวเองอยู่ นั่นคือระบบนำทาง Nokia Drive ที่จะยังคงอยู่เฉพาะบนสมาร์ทโฟน Nokia เท่านั้น
7. ระบบ Windows Phone 8 จะรองรับการใช้งานเชิงธุรกิจมากขึ้น

ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นหลายๆ บริษัทเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนตระกูล Windows Phone ก็เป็นได้ เพราะในตัวของ Windows Phone 8 จะรองรับการทำงานเชิงธุรกิจในหลายๆ ด้าน โดยฟีเจอร์เด่นๆ ก็เช่นรองรับการเข้ารหัสข้อมูล, มี secure boot, สามารถพัฒนาระบบแอพสำหรับใช้งานเฉพาะในองค์กรได้ แถมยังรองรับ VoIP ในตัวอีกด้วย 
 8. เปลี่ยนหน้าตา Homescreen ให้เป็น Personalize มากขึ้น

nส่วนนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่มองเห็นได้มากที่สุดแล้ว แต่ใครที่หวังว่ามันจะเปลี่ยนแบบพลิกโฉมอาจจะผิดหวังเล็กน้อยนะครับ เพราะยังใช้ระบบแบบ Live tile เหมือนเดิม เพียงแต่มีคุณสมบัติดังนี้
nLive tile สามารถปรับขนาดได้หลากหลายมากขึ้น (แต่ยังไม่ถึงขั้นอิสระ)
nเนื่องด้วยการที่สามารถปรับได้หลากหลาย ทำให้ในแนวนอนของจอ สามารถวาง tile ได้สูงสุดที่ 4 แถวแล้ว
Windows Phone 8 รองรับภาษาไทยแน่นอนแล้ว
Microsoft จะเริ่มปล่อยอัพเดต (ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป)
ผู้ใช้เครื่อง Windows Phone 7.5 ทั้งหมดในปัจจุบัน จะไม่ได้รับการอัพเดตเป็น Windows Phone 8
แต่ทั้งนี้ก็ยังได้รับรางวัลปลอบใจเป็น Windows Phone 7.8 ที่ในขณะนี้ Microsoft บอกแต่เพียงว่าจะได้รับ homescreen แบบเดียวกับ Windows Phone 8 แต่ในเรื่องการรองรับภาษานั้นไม่ได้รับการพูดถึงแต่อย่างใด รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ด้วย ทำให้ต้องรอลุ้นกันไปก่อน
Microsoft ประกาศแล้วว่าต่อไปนี้ จะมีการอัพเดต Windows Phone ให้กับเครื่องทุกรุ่นที่จะออกมาหลังจากนี้เป็นเวลาอย่างน้อย 18 เดือน
รองรับภาษาเพิ่มขึ้นเป็น 50 ภาษา จาก 180 ประเทศทั่วโลก

แอพที่อ้างอิงเกี่ยวกับระบบแผนที่และระบบนำทางจะสามารถรันแบบ background ได้แล้ว
หากกำลังมีคำถาม ถามตัวเองอยู่ว่า ข้อแตกระหว่าง Windows Phone vs Android vs iOS เป็นอย่างไร ?? ทำไมคนถึงชอบซื้อ iPhone, ทำไม android ถึงเป็นที่นิยม หรือ มีคนนิยมใช้ Windows Phone กันด้วยเหรอ ?? คำถามเหล่านี้ ถ้าหาก คุณไปถาม คนที่ไม่เคยใช้ Windows Phone รับรองว่า คุณจะได้คำตอบที่เหมือนๆ กัน คือ มันไม่เป็นที่นิยม, มี apps ให้เลือกไม่เยอะ เป็นต้น แน่นอนอยู่แล้วครับ Windows Phone เป็นอะไรที่ใหม่มากๆ (แทบทุกคนรู้จักAndroid และ iPhone, iPad) ซึ่งมีอยู่หลายๆ สาเหตุ ที่ทำให้ Windows Phone ค่อนข้างช้ากว่า ระบบปฏิบัติการอื่นๆ แต่ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะมาเล่าให้ฟังในวันนี้ จะขอเอาบทความ เปรียบเทียบ Windows Phone vs Android vs iOS ที่เขาเขียนอธิบายไว้ได้ดีมาก มานำเสนอ ให้เห็นความแตกต่างของ ระบบปฏิบัติการ บน Mobiles devices ทั้ง 3 ประเภท เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ก่อนที่จะตกลงเลือกซื้อ
นอกจาก สมาร์ทโฟน ที่ขับเคลื่อนด้วย ฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง ที่อยู่บน Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820แล้ว ส่วนของ ระบบปฏิบัติการ ก็ถือเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งาน และแน่นอนว่าWindows Phone 8 ที่อยู่บน Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 นั้น เป็นระบบปฏิบัติการที่ทำให้ผู้ใช้หลายท่านติดใจ ทั้งในเรื่องของความเร็ว และความง่ายในการใช้งาน รวมไปถึง ฟีเจอร์ Live Tiles ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของWindows Phone 8 กันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าบน Windows Phone 8 นั้นก็มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นต่างๆ มากมาย โดยในวันนี้ ทีมงานได้รวบรวมข้อมูล ความเป็นมาของ Windows Phone ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และข้อมูลเกี่ยวกับฟีเจอร์เด่นๆ บน Windows Phone 8 ว่ามีอะไรบ้าง เราลองมาติดตามกันได้เลย
กว่าจะมาเป็น Windows Phone 8 ระบบปฏิบัติการที่สมบูรณ์แบบสำหรับคนไทย และคนทั่วโลก

Windows Phone 8 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกออกแบบมาให้รองรับกับการใช้งาน สำหรับบุคคลทั่วไป และ สามารถใช้งานได้ง่าย และไม่มีความซับซ้อน ซึ่งก่อนที่จะมาเป็น Windows Phone 8 ที่อยู่บน Nokia Lumia 920 และ Nokia Lumia 820 นั้น เราย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ที่ทาง Microsoft นั้นได้มีความคิดที่จะพัฒนา ระบบปฏิบัติการ ไว้ใช้สำหรับอุปกรณ์ที่สามารถพกพาได้ จึงได้ออกแบบ Windows CE โดยอิงพื้นฐานจาก Windows95 ซึ่งหลังจากนั้นก็ถูกพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนเข้าสู่ยุคของ Pocket PC และเปลี่ยนชื่อจาก Windows CE เป็นWindows Mobile โดยเวอร์ชั่นสุดท้ายของ Windows Mobile นั้นคือเวอร์ชั่น Windows Mobile 6.5 ซึ่งถูกใช้บนPocket PC รวมถึง Smartphone แบบมีคีย์บอร์ดเป็นปุ่มกด อีกหลายรุ่นในช่วงนั้น ซึ่งในยุคนั้น Windows Mobile นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ในหมู่ของนักธุรกิจ และองค์กรต่างๆและในเวอร์ชั่นถัดมา ทาง Microsoft เองได้พยายามออกแบบ ระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือใหม่ ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ทั่วไปให้มากยิ่งขึ้น และรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมไปถึง การนำเอา Social Network เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของระบบปฏิบัติการ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยน Interface ใหม่หมด ด้วยดีไซน์แบบ Metro Style และด้วยการใช้งานที่ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น และรวดเร็วยิ่งขึ้นนี้เอง ที่ทำให้ ระบบปฏิบัติการ Windows Phone เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่า บนระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุดจาก Microsoft อย่าง Windows Phone 8 จะยิ่งเพิ่มความง่าย และสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ได้มากขึ้นไปอีก
Windows Phone 8 รองรับการใช้งานภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ

แน่นอนว่า Windows Phone 8 นั้นมีการรองรับการใช้งานภาษาไทย อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดภาษาไทย หรือแม้แต่การอ่านเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทย ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งในตัวเครื่องนั้น ยังมีเมนูภาษาไทย รวมถึงคำอธิบายต่างๆ เป็นภาษาไทยอีกด้วย ดังนั้นก็รับรองได้ว่า Windows Phone 8 บน Nokia Lumia 820 และ Nokia Lumia 920 นั้นจะสามารถใช้งานภาษาไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน
 
Live Tiles แบบใหม่ บน Windows Phone 8

Live Tiles ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้ Windows Phone หลายๆ ท่านชื่นชอบ และแน่นอนว่า บน Windows Phone 8 นั้นเราสามารถปรับแต่ง เพิ่มเติม รวมไปถึง ปรับเปลี่ยนขนาดของ Live Tiles ได้อย่างอิสระมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้น หรือเล็กลงแต่เพิ่มจำนวน ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเลือก แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ใช้บ่อยๆ ออกมาเป็น Shortcut บน Live Tile ด้วยการ PIN ได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า เมื่ออยู่บนLive Tiles แล้ว คุณจะไม่พลาดทุกการอัพเดทอย่างแน่นอน
รองรับการเข้าชมเว็บไซต์ อย่างเต็มรูปแบบด้วย Internet Explorer 10 บน Windows Phone 8


เรียกได้ว่าเป็นเบราว์เซอร์ที่สามารถใช้งานได้ใกล้เคียงกันกับเบราว์เซอร์ที่หลายๆ ท่านนิยมใช้บน PC มากที่สุดเลยทีเดียวสำหรับ Internet Explorer 10 ที่อยู่บน Windows Phone 8 โดยเมื่อเที่ยบกับ Internet Explorer 10 ที่อยู่บนWindows 8 สำหรับ PC แล้ว ฟีเจอร์หลักๆ เรียกได้ว่ามีอยู่อย่างครบถ้วนเลยทีเดียว นอกจากนี้ ยังรองรับภาษาไทยในการเข้าชมเว็บไซต์ได้อย่างสมบูรณ์อีกด้วย ซึ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการเข้าชมเว็บไซต์อยู่แล้ว การเข้าชมเว็บไซต์ด้วย Internet Explorer 10 ก็น่าจะช่วยให้คุณเข้าชมเว็บไซต์ได้ง่าย ปลอดภัย และสะดวกง่ายดายมากขึ้น
ความปลอดภัยของข้อมูลบนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8
คุณสามารถมั่นใจได้ว่า ข้อมูลสำคัญๆ ของคุณที่อยู่บน Windows Phone 8 จะถูกเข้ารหัสไว้อย่างปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่าไฟล์ต่างๆ ที่ถูกเข้ารหัส ก็จะสามารถปกป้องไฟล์นั้นๆ จากแฮคเกอร์ หรือผู้ไม่ประสงค์ดีได้ ซึ่ง Windows Phone8 ได้มีการเข้ารหัสด้วย BitLocker โดยจะรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทุกชนิด ตั้งแต่เอกสารไปจนถึง รหัสผ่านต่างๆ ที่อยู่บนเครื่องคุณเลยทีเดียว
แบ็คอัพไฟล์ ไม่มีหาย ด้วย SkyDrive

ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร รูปภาพ ข้อความ รายชื่อ รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ คุณสามารถแบคอัพ ข้อมูลเหล่านั้นได้ผ่านSkyDrive บน Windows Phone 8 และแน่นอนว่า ต่อให้คุณรีเซ็ตเครื่อง แต่คุณเคยแบคอัพเอาไว้บน SkyDrive คุณก็จะสามารถกู้คืนข้อมูลของคุณกลับมาได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังรวมไปถึง หากคุณเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ ข้อมูลก็จะสามารถโอนย้ายผ่าน SkyDrive มายังสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของคุณได้ทันที
รองรับการแชร์ภาพ วิดีโอ และอื่นๆ ผ่านการเชื่อมต่อแบบ NFC
ถือเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ทีมงานค่อนข้างชื่นชอบหลังจากได้ทดลองใช้งานบน Nokia Lumia 920 เพราะเราสามารถแชร์รูปภาพ วิดีโอ รวมไปถึงไฟล์อื่นๆ ให้กับเพื่อนๆ ได้ง่ายๆ เพียงแค่นำเครื่องมาแตะกันเท่านั้น รวมไปถึงยังสามารถแบ่งปันข้อมูลได้ทั้งระหว่างมือถือด้วยกัน หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต ที่รองรับได้อีกด้วย
อัพเดทเครื่องได้ง่ายๆ ผ่านทางระบบ OTA

หมดยุคของการเสียบสมาร์ทโฟน เข้ากับ PC เพื่อทำการอัพเดต ล่าสุด กับ Windows Phone 8 คุณสามารถอัพเดทเครื่องได้ง่ายๆ ผ่านระบบ OTA (Over the Air) ซึ่งคุณสามารถอัพเดทผ่านเมนูในตัวเครื่องได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเสียบเข้ากับ PC อีกต่อไป เพียงแค่คุณเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับเครือข่าย WiFi และหากในเวลานั้น มีการอัพเดท ก็จะสามารถอัพเดทได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว
สรุปส่งท้าย กับประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สัมผัสได้จากระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 บน Nokia Lumia

เรียกได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ มีเอกลัษณ์เฉพาะตัว และเข้ากับชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Live Tileรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่มาพร้อมกับ Windows Phone 8 และถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ให้ทั้งความเรียบง่าย รวดเร็ว อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย นอกจากนี้ Internet Explorer 10 ก็ช่วยให้คุณสามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้เสมือนกับเข้าด้วยเครื่อง PC อีกทั้งยังสามารถรองรับภาษาไทยได้อย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย นอกจากนี้ หากเรามองในมุมของอนาคต เกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ บน Windows Phone 8 เราก็จะพบว่า Windows Phone 8 บน สมาร์ทโฟน และ Windows 8 สำหรับ PC นั้นมีความคล้ายกันอย่างมาก ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพียงแค่ครั้งเดียว แต่สามารถลงได้ทั้ง PC และ Windows Phone 8 ก็จะทำให้นักพัฒนา สามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นเจ๋งๆ ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นก็เชื่อได้ว่าในอนาคตเราจะเห็นแอพพลิเคชั่น และเกมส์ ดีๆ อีกมากมาย ที่จะพากันมาลงบน Windows Phone 8 อย่างแน่นอน
โซเชียลเน็ตเวิร์คชั้นนำบน Windows Phone 8

โซเชียลเน็ตเวิร์คมีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับใช้ติดต่อสื่อสารในยุคปัจจุบัน และอุปกรณ์สื่อสารที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือสมาร์ทโฟน ซึ่งสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 สามารถใช้งานการติดต่อสื่อสารบนเครือข่ายสังคมออนไลน์หรือที่เรียกว่าโซเชียลเน็ตเวิร์คได้อย่างครอบคลุมทุกการใช้งานได้ไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอื่นๆ โดยมีแอพพลิเคชั่นโซเชียลเน็ตเวิร์คชั้นนำบน Windows Phone 8 มาแนะนำดังต่อไปนี้
1.Facebook Beta

ผู้ใช้งาน Facebook บน Windows Phone 8 ที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปแบบการใช้งานที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปด้วยแอพฯ นี้ โดยแอพฯ นี้เป็นแอพฯ ที่ทาง Facebook เป็นผู้พัฒนาขึ้นมาเอง รวมถึงมียูสเซอร์อินเตอร์เฟซที่คุ้นเคยกันดีและเหมือนกับในสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอย่างแอนดรอยด์และ iOS อีกทั้งยังคงมีฟีเจอร์หลักอย่าง เช่น การแชร์ข้อมูล, ตั้งสเตตัส และการแสดงผลแบบไทม์ไลน์มาให้ใช้งานอีกด้วย (ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Windows Phone Store)
2.Twitter

ผู้ใช้งาน Twitter บน Windows Phone 8 จะได้รับความสะดวกในการใช้งานด้วยยูสเซอร์อินเทอร์เฟสการใช้งานพื้นฐานที่มีให้ใช้งานได้อย่างครบถ้วน เช่น Home, Connect,Discover และ Me ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมสำหรับ Windows Phone 8 คือการแสดงผลด้านข้าง (Snap view), การแสดงผลรูปภาพในแนวนอน, การแชร์และค้นหาข้อมูลจากแอพ อื่นมายัง Twitter รวมถึงคุณสมบัติการแจ้งเตือนบนหน้า Live Tiles ด้วย (ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Windows Phone Store)
3.LINE

LINE ถือได้ว่าเป็นแอพฯ ยอดนิยมสำหรับนักแชทที่จำเป็นต้องมีลงไว้ติดเครื่อง แม้ว่าการใช้งาน LINE บน Windows Phone 8 จะดูแตกต่างจากกการใช้งานบนระบบ ปฏิบัติการอื่นๆ เนื่องมาจากการใช้ยูสเซอร์อินเทอร์เฟสแบบ Metro UI แต่ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดด้วยการใช้งานที่เข้าใจได้ง่ายและไม่แตกต่างจากระบบปฏิบัติการอื่นๆ เลย อีกทั้งยังคงมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจไว้อย่างครบถ้วน เช่น การส่งข้อความเสียง, การส่งวิดีโอฟรี การส่งสติ๊กเกอร์และอีโมติคอนที่หลากหลายฟรี, พร้อมการโทรหากันฟรีแบบ 1 ต่อ 1 ให้เลือกใช้งานได้อีกด้วย (ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Windows Phone Store)
4.Instance
ผู้ใช้งานหลายคนคงกังวลว่าสมาร์ทโฟน Windows Phone 8 จะมีแอพฯ ที่เกี่ยวกับการแบ่งปันภาพถ่ายยอดนิยมอย่าง Instagram หรือไม่? คำตอบคือยังไม่มีแต่มีแอพ ตัวอื่นที่สามารถใช้งานได้เทียบเท่าอย่างแอพชื่อว่า Instance โดยผู้ใช้งานที่มี account ของ Instagram อยู่แล้วสามารถล็อคอินเข้าไปได้ทันที ส่วนผู้ใช้งานที่ยังไม่เคยใช้งานมาก่อนสามารถสมัครไอดีใหม่ได้อีกด้วย อีกทั้งยังคงมีฟีเจอร์ให้ใช้งานอย่างครบถ้วน เช่น การรับชม, อัพโหลดรูปภาพ, การใส่ฟิลเตอร์บนภาพถ่าย, การกดปุ่มชื่นชอบภาพ และใส่ความเห็นเกี่ยวกับภาพ (ดาวน์โหลดได้ที่ Windows Phone Store
5.Skype
แอพฯ ยอดนิยมอีกหนึ่งตัวที่จะช่วยให้คุณติดต่อสื่อสารได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น ด้วยจุดเด่นที่สามารถสื่อสารกันได้หลายช่องทาง เช่น การสื่อสารผ่านข้อความ, การสื่อสารผ่านข้อความเสียงและแสดงภาพคู่สนทนาผ่านกล้องแบบ Real Time อีกทั้งการใช้งานเป็นโทรศัพท์ติดต่อผู้อื่นที่ไม่ได้ใช้ Skype ซึ่งสามารถโทรได้ทั้งเบอร์มือถือและ เบอร์พื้นฐานทั่วไปได้ทั่วโลกอีกด้วย (ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ Windows Phone Store)


สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 สามารถตอบโจทย์การใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณได้อย่างครอบคลุม และใช้งานได้อย่างสะดวกและเข้าใจได้ง่ายไม่แตกต่างจากสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอื่นๆ รวมถึงยังมีแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับโซเชียลเน็ตเวิร์คอีกมากมายให้คุณได้ลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ซ้ำใคร